ภาษีเงินฝาก

5 ข้อควรรู้และต้องจำ ของภาษีเงินฝาก

0 Comments

นิสัยการออมเงินที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีเก็บ รัฐบาลตระหนักในความสำคัญของการสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินเป็นอย่างดี จึงพยายามผลักดันและสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในกองทุนรวม ประกันสังคม หรือกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อการันตีว่าประชาชนจะมีเงินใช้ในวัยเกษียณ ไม่ลำบากเป็นภาระของลูกหลานหรือภาครัฐมากนัก ซึ่งหลาย ๆ คนในช่วงที่มีกำลังวังชา สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงชีพได้ ก็ตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ดี จึงพยายามเก็บหอมรอมริบด้วยการออมเงินในรูปแบบของเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์หลากหลายธนาคาร ซึ่งผลดีของการฝากเงินกับธนาคารเหล่านี้คือ ผู้ฝากจะได้รับผลประโยชน์ที่เรียกว่า “ดอกเบี้ยเงินฝาก” แต่ถึงกระนั้นหลายคนอาจจะไม่ทราบว่าจะต้องเสียภาษีเงินฝากให้กับภาครัฐด้วย เมื่อมีจำนวนดอกเบี้ยถึงเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้ในกฎหมายภาษี

5 ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาษีเงินฝากที่ทุกคนควรรู้

1. ดอกเบี้ยเงินฝากคืออะไร

ดอกเบี้ยเงินฝาก คือ ผลตอบแทนที่ธนาคารจ่ายให้แก่ผู้ฝากเงินตามอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้ ดอกเบี้ยเงินฝากมากจากหลากหลายประเภทบัญชีเงินฝาก เช่น เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ เงินฝากเผื่อเรียก เป็นต้น

2. ดอกเบี้ยเงินฝากต้องเสียภาษีไหม

ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยเงินฝากถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 4 ที่ต้องเสียภาษี ยกเว้นดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้จากบัญชีเงินฝากประเภทพิเศษ เช่น ฝากประจำปลอดภาษี ดังนั้นบุคคลธรรมดาหากมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากถึงเกณฑ์จะต้องดำเนินการเสียภาษีเงินฝากให้ถูกต้อง

ภาษีเงินฝาก

3. ดอกเบี้ยเงินฝากเสียภาษีเท่าไหร่

อัตราภาษีดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดาอยู่ที่ 15% ของดอกเบี้ยเงินฝากที่เกิน 20,000 บาทต่อปี ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินฝาก คือ หากผู้ฝากเงินมีดอกเบี้ยเงินฝากรวมทุกบัญชีในปีภาษีหนึ่งเท่ากับ 100,000 บาท จะต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ของดอกเบี้ยเงินฝากจำนวน 100,000 บาท ซึ่งเท่ากับ 15% x 100,000 = 15,000 บาท แต่หากได้รับดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี ก็ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ยังต้องมีหน้าที่แสดงความยินยอมให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากให้กับกรมสรรพากร

4. ธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่อะไร

ธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่ให้บริการรับฝากเงินจากลูกค้าแล้วนำไปลงทุน หรือให้สินเชื่อแก่ผู้ที่ต้องการเงินทุนเพื่อลงทุนทำธุรกิจ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลกำไรในการดำเนินธุรกิจการเงินการธนาคาร โดยการรับฝากเงินจากลูกค้านั้นธนาคารพาณิชย์มีหน้าที่จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน และมีหน้าที่หักภาษีเงินฝาก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝากที่จ่ายให้แก่ลูกค้า โดยนำอัตราภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% คูณด้วยจำนวนดอกเบี้ยเงินฝากทั้งหมดที่ได้รับเกิน 20,000 บาทต่อปี จากนั้นหักภาษี ณ ที่จ่ายเท่ากับยอดภาษีดอกเบี้ยเงินฝากที่คำนวณได้เพื่อนำส่งให้กับกรมสรรพากร ทั้งนี้ การทำธุรกิจประเภทธนาคารพาณิชย์นั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยเสียก่อน

5. บุคคลธรรมดาสามารถขอคืนภาษีได้หรือไม่

บุคคลธรรมดาสามารถขอคืนภาษีดอกเบี้ยเงินฝากได้ หากยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไปและพบว่า มีฐานรายได้สุทธิไม่ถึง 150,000 บาท ก็มีสิทธิ์ที่จะขอคือภาษีดอกเบี้ยเงินฝากได้ แต่กรณีที่มีฐานรายได้สุทธิตั้งแต่ 150,001 บาทขึ้นไปนั้น ก็สามารถเลือกได้ว่าจะปล่อยให้ธนาคารหักภาษี ณ ที่จ่ายไป โดยไม่ต้องนำมายื่นภาษีหรือจะนำมายื่นภาษีด้วยก็ได้ ซึ่งจะเลือกทำวิธีใดก็ขึ้นอยู่กับว่าวิธีไหนได้ประโยชน์มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ฝากเงินมีรายได้เพียงช่องทางเดียวจากดอกเบี้ยเงินฝาก 100,000 บาท จะถูกหักภาษีเงินฝาก ณ ที่จ่ายไว้ 15,000 บาท แต่มีค่าใช้จ่ายที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 50,000 บาท จะทำให้ผู้ฝากเงินมีรายได้สุทธิที่ต้องยื่นภาษีจริงเพียง 50,000 บาท ในกรณีนี้ ผู้ฝากเงินไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากมีฐานรายได้ไม่ถึง 150,000 บาท จึงควรยื่นแบบแสดงรายงานเงินได้ทั้งหมดและสามารถขอคืนภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ณ ที่จ่ายได้เป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาษีเงินฝากที่นำมาฝากกัน นอกจากนี้เรายังมีข้อแนะนำเพิ่มเติมมาฝากผู้อ่านทุกท่านกันอีกด้วย นั่นคือ ผู้ฝากเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าธนาคารพาณิชย์ได้หักภาษี ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝากของตนอย่างถูกต้อง หากพบว่าธนาคารพาณิชย์หักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ถูกต้อง ผู้ฝากเงินสามารถแจ้งธนาคารพาณิชย์เพื่อทำการแก้ไขการหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวได้

Related Posts

ค่าบริการขนส่ง

ค่าบริการขนส่งสำหรับธุรกิจและวิธีลดต้นทุนการจัดส่ง

0 Comments

ในภาพรวมธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน การจัดการต้นทุนค่าบริการขนส่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างผลกำไรและความพึงพอใจของลูกค้า ค่าธรรมเนียมการขนส่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดต้นทุนโดยรวมของการดำเนินการด้านลอจิสติกส์ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกในการทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมการขนส่ง และเสนอกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพและความคุ้มค่า การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้จะทำให้ธุรกิจคุณได้เปรียบในการแข่งขัน วิธีลดต้นทุนค่าบริการขนส่งโดยรวม 1. พื้นฐานของค่าบริการขนส่ง ควรคิดค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมและต้นทุนแฝงเหล่านี้เข้าไปด้วย…

กองทุนรวมเทคโนโลยี

วิธีเลือกกองทุนรวมเทคโนโลยี เรื่องที่ต้องพิจารณาเพื่อลงทุนได้ตามเป้าหมาย

0 Comments

เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีแล้ว คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจไปที่หุ้นมากกว่ากองทุนรวม เนื่องจากเล็งเห็นว่าหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนรวมเทคโนโลยี ทว่าการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดเดียวโดยไม่กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เลย ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่ปลอดภัยต่อเงินลงทุนมากนัก การเลือกลงทุนในกองทุนรวมจึงมีความสำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง…