กองทุนรวมเทคโนโลยี

วิธีเลือกกองทุนรวมเทคโนโลยี เรื่องที่ต้องพิจารณาเพื่อลงทุนได้ตามเป้าหมาย

0 Comments

เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีแล้ว คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจไปที่หุ้นมากกว่ากองทุนรวม เนื่องจากเล็งเห็นว่าหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่ากองทุนรวมเทคโนโลยี ทว่าการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดเดียวโดยไม่กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เลย ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่ปลอดภัยต่อเงินลงทุนมากนัก การเลือกลงทุนในกองทุนรวมจึงมีความสำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งกองทุนรวมเองก็มีกองทุนประเภทที่ลงทุนในเทคโนโลยีอยู่ด้วยเหมือนกัน

กองทุนรวมเทคโนโลยีน่าสนใจอย่างไร ทำไมควรเลือกลงทุน

เทคโนโลยีเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นฐานของหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจหลายประเภทก็ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อดำเนินกิจการ ความน่าสนใจของกองทุนรวมเทคโนโลยีคือ เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยง โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญอย่างผู้จัดการกองทุนช่วยบริหาร ไม่ต้องเลือกดูและศึกษาหุ้นเป็นรายตัว เหมาะสำหรับผู้ที่มีและไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนอยู่แล้ว ไม่เคยลงทุนสินทรัพย์เกี่ยวกับเทคโนโลยีมาก่อน หรือยังไม่ได้ศึกษาด้านการลงทุนเทคโนโลยีมากพอ กองทุนเทคโนโลยีก็เป็นทางเลือกที่สนใจในการลงทุน

กองทุนรวมเทคโนโลยี ควรเลือกอย่างไรเพื่อให้ลงทุนได้ตามเป้าหมาย

การเลือกลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ตาม โดยหลักการแล้วมีพื้นฐานเหมือนกัน ส่วนเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการลงทุนขึ้นอยู่กับลักษณะของสินทรัพย์นั้น ๆ สำหรับกองทุนรวมเทคโนโลยีก็มีลักษณะของสินทรัพย์ที่ต้องศึกษาลึกลงไป แล้วแต่กองทุนที่เลือกลงทุน ทั้งนี้ ควรพิจารณาควบคู่กับเป้าหมายการลงทุนของตัวเอง เพื่อให้วางแผนการลงทุนได้ดีด้วย คือ

กองทุนรวมเทคโนโลยี

1. เทคโนโลยีนั้นมีอัตราเติบโตเหมาะกับระยะเวลาที่จะลงทุน

การพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนรวมเทคโนโลยีให้ดูว่า กลุ่มเทคโนโลยีในกองทุนนั้นสามารถเติบโตได้ดีหรือไม่ ภายใต้กรอบระยะเวลาในการลงทุนที่วางแผนไว้ หากมีความผันผวนสูงในระยะสั้น แต่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว ก็สามารถเลือกลงทุนระยะยาวได้ ภายใต้กรอบเวลารับผลตอบแทนที่วางแผนไว้ แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่า ระยะเวลาอาจไม่คุ้มค่ากับการถือสินทรัพย์ไว้ ควรเลือกพิจารณาเป็นกองทุนรวมอื่น ๆ

2. เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้

การพิจารณาระดับความเสี่ยง เป็นหลักสำคัญในการเลือกลงทุนสินทรัพย์ทุกชนิด การลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นกองทุนรวม แต่ก็มีความเสี่ยงหลายระดับให้เลือก อาจเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้ แต่ต้องมีการกระจายความเสี่ยงไปยังกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อให้พอร์ตการลงทุนสมดุลด้วย การจัดการความเสี่ยงก็มีความสำคัญระดับเดียวกับการพิจารณาความเสี่ยงก่อนลงทุนเช่นกัน 

3. เริ่มต้นจากเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวและคุ้นเคยก่อน

กองทุนรวมเทคโนโลยีจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้หรือไม่นั้น ก่อนอื่นต้องมีความรู้ความใจในเทคโนโลยีที่ต้องการลงทุนด้วย เพราะจะทำให้เข้าใจว่า ความเปลี่ยนแปลงด้านราคาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร มีปัจจัยอะไรที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้บ้าง เมื่อเข้าใจจุดนี้ก็จะทำให้วางแผนซื้อขายกองทุนได้ดีขึ้นด้วย รวมถึงสามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดไปยังการลงทุนที่มีความเสี่ยงในระดับสูงขึ้นได้

4. เลือกกองทุนที่บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ

ผู้จัดการกองทุนคือบุคคลสำคัญที่จะชี้ว่ากองทุนนั้นสร้างกำไรได้หรือไม่ ก่อนลงทุนจึงต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนนั้น ๆ ว่า ใครเป็นผู้บริหารจัดการ มีประสบการณ์การลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีมากน้อยอย่างไร เพราะนโยบายที่ผู้จัดการกองทุนตัดสินใจดำเนินการย่อมส่งผลต่อทิศทางการเติบโตของกองทุนนั้น ๆ แน่นอน ทั้งนี้ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นตลอดเวลา บางครั้งอาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้นโยบายของกองทุนไม่เป็นไปตามที่คาดเดาก็ได้ การติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

5. ศึกษาเปรียบเทียบนโยบายของแต่ละกองทุนอย่างละเอียด

นอกจากการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ในกองทุนรวมเทคโนโลยีที่สนใจแล้ว การศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบกันระหว่างกองทุนเป็นสิ่งที่ควรทำเช่นกัน เพราะการตัดสินใจเลือกกองทุนที่ใช่ ไม่ควรรีบร้อน ควรใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบแต่ละกองทุนให้ดี บางกองทุนผลตอบแทนอยู่ในอัตราที่ดี แต่เมื่อคำนวณระดับความเสี่ยงกับระยะเวลาในการลงทุนอาจไม่ตอบโจทย์กับเป้าหมายก็เป็นได้

แนวทางในการเลือกกองทุนรวมเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนที่กำลังสนใจด้านเทคโนโลยี มีความพร้อมในการรับความเสี่ยง แต่ยังไม่ได้เริ่มลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มาก่อน การประเมินตัวเลือกด้วยหลักการที่ดีจะช่วยให้เลือกกองทุนได้ตรงใจ เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง

Related Posts

ป้ายดิจิทัล

แนวโน้มป้ายดิจิทัลในโฆษณาค้าปลีก

0 Comments

ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากขึ้น ป้ายดิจิทัลจึงกลายเป็นสื่อโฆษณาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในภาคค้าปลีก ซึ่งป้ายดิจิทัลสามารถช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของป้ายดิจิทัลในโฆษณาค้าปลีก ป้ายดิจิทัลมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาแบบเดิมๆ ดังนี้ ความยืดหยุ่น: ป้ายดิจิทัลสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายตามความต้องการของแบรนด์ ความน่าสนใจ: ป้ายดิจิทัลสามารถนำเสนอเนื้อหาที่เคลื่อนไหวและน่าดึงดูดใจกว่าสื่อโฆษณาแบบเดิมๆ ประสิทธิภาพ: ป้ายดิจิทัลสามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ…

กลยุทธ์การโฆษณา

กลยุทธ์การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายโดยใช้ป้ายดิจิทัล

0 Comments

การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้ชมที่มีแนวโน้มจะสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้มากที่สุด ป้ายดิจิทัลเป็นช่องทางการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถแสดงโฆษณาตามปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง ความสนใจ และพฤติกรรมของผู้ชม ประโยชน์ของการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายโดยใช้ป้ายดิจิทัล การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายโดยใช้ป้ายดิจิทัลมีข้อดีหลายประการ ดังนี้…

ภาษีเงินฝาก

5 ข้อควรรู้และต้องจำ ของภาษีเงินฝาก

0 Comments

นิสัยการออมเงินที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีเก็บ รัฐบาลตระหนักในความสำคัญของการสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินเป็นอย่างดี จึงพยายามผลักดันและสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในกองทุนรวม ประกันสังคม หรือกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อการันตีว่าประชาชนจะมีเงินใช้ในวัยเกษียณ…